เรื่องย่อ 5
พระสังข์เหาะไปเจ็ดวันเจ็ดคืน ไปถึงเขาหลวงซึ่งเป็นภูเขาที่สูงกว่าที่อื่นๆเหน็ดเหนื่อยสิ้นกำลังก็หยุดพักที่ยอดเขา หลบแดดร้อนอยู่ที่ใต้ร่มไทร ส่วนทางด้านนางพันธุรัตกลับมาจากป่า พอทราบว่าพระสังข์หายตัวไปก็ตกใจ ไปเปิดบ่อทองก็พร่องไป รูปเงาะ ไม้เท้า เกือกแก้ว หายไปด้วย จึงแน่ใจว่าพระสังข์หนีไปแล้ว จึงตีกลองสัญญาณเรียกพวกยักษ์มา ให้ช่วยกันออกมาตามหาพระสังข์ นางแจ้งกับเหล่ายักษ์ว่า เจ้าสังข์ทองลูกรักของข้านี้ ลอบลักรูปเงาะและเกือกแก้ว สวมใส่เข้าแล้วเหาะไป เร่งไปตามหาอย่าที วันนี้ให้ได้ตัวมา
พวกยักษ์ต่างเหาะเหินตามหาพระสังข์ตามป่า เขา ถ้ำ บนบก ในน้ำจนกระทั่งพระสังข์รู้ตัวพระสังข์จึงถอดรูปเงาะเอาซ่อนไว้แล้วขึ้นไปนั่งบนต้นไทร ทำเป็นเหมือนรุกขเทพ พอพวกยักษ์มาถึงก็ไม่มีใครรู้จักเลย ต่างคิดว่าพระสังข์เป็นเทวดา เพราะ ผิวพรรณผุดผ่องประหลาดคน จึงถามว่าเห็นเจ้าเงาะไหมพระสังข์แกล้งชี้ทิศให้ยักษ์ตามเจ้าเงาะไป แล้วเกิดความพรั่นพรึงในอำนาจของยักษ์
พระสังข์กลัวว่านางพันธุรัตจักตามมาทัน จึงตั้งจิตอธิษฐานนึกถึงความดีของนางจันท์เทวีว่า ขอให้คุ้มครองพระองค์ หากนางพันธุรัตตามทัน ก็ขออย่าให้ขึ้นมาบนภูเขาได้
“ป่าวชาวพารา ครั้งนี้อย่าเลือกว่าแก่หนุ่ม หามาประชุมจงพร้อมหน้า ให้เลือกตามใจรักอีกสักครา สุดแต่วาสนาธิดาเรา” พระองค์เห็นชอบด้วย ก็ให้กษัตริย์ทั้งหกเลือกเป็นคู่ครอบรอการอภิเษกพร้อมๆ กับนางรจนา พวกที่ไม่ได้รับเลือกก็กลับเมืองของตนไปแล้วให้ “เร่งร้องป่าวชาวเมืองทั้งปวงนั้น จนชั้นทรพลคนเข็ญใจ ให้มันแต่งตัวตามทำนอง มาประชุมหน้าท้องพระโรงใหญ่ จะให้ลูกรักร่วมฤทัย เลือดคู่ดูใหม่ในพรุ่งนี้”
บรรดาชายในเมือง ทั้งแก่ ทั้งหนุ่ม ทั้งขุนนาง ประชาชน ทั้งร่ำรวย และยากจน ต่างก็มาประชุมกันที่ท้องพระโรง
นางรจนาไม่สามารถเลือกคู่ได้เพราะบรรดาชาวเมืองที่มาชุมนุมกันนั้น “ลูกไม่เสน่หาอาลัย ขออยู่ด้วยชนกชนนี ที่จะมีภัสดานั้นหาไม่ ” และกราบทูลท้าวสามนต์กับนางมณฑาว่า “เบื้องหน้าถ้าตัวลูกชั่วไป จงฆ่าเสียอย่าไว้ชีวิต” ท้าวสามนต์งุนงงยิ่งนัก ประหลาดใจว่า “บุรุษในแผ่นดินก็สิ้นแล้ว ควรหรือลูกแก้วไม่เลือกได้” จึงตรัสถามเสนาที่เข้าเฝ้าว่า ได้เรียกชายในเมืองมาประชุมเลือกคู่ทั้งหมดหรือไม่ เสนากราบทูลว่ามาหมดทุกคนแล้ว
ท้าวสามนต์ได้ยินเรื่องเจ้าเงาะ เผอิญเทวดาเข้าดลใจด้วย ก็นึกกริ้วโกรธนางรจนาขึ้นมา จึงตรัสว่า “น้อยหรือรจนาลูกสาวศรี เลือกคู่ดูใครไม่ไยดี จนสิ้นชายไม่มีทั้งพารา เหลือแต่เงาะป่าบ้าใบ้ เอามาให้มันเลือกสมน้ำหน้า” แล้วสั่งเสนาให้ไปพาเจ้าเงาะมา
พวกเสนาไปถึงท้องนา พยายามฉุดคร่าจะพาตัวเจ้าเงาะไป แต่ฉุดอย่างไรก็ไม่สำเร็จเพราะเจ้าเงาะเรี่ยวแรงมากเหลือเกิน บรรดาเด็กเลี้ยงวัวเห็นคนรุมกันฉุดเจ้าเงาะก็ไม่พอใจ จึงพากันร้องตะโกนต่อว่าพวกเสนา เหล่าเสนาจึงบอกว่าท้าวสามนต์ให้มาเอาตัวเจ้าเงาะไปให้ทอดพระเนตร และ “กูจะให้ขนมเข่งของทยา กินอร่อยหนักหนาประสานจน” ขอแต่ให้เด็กๆ บอกวิธีที่จะล่อเจ้าเงาะไปได้เท่านั้น พวกเด็กเลี้ยงวัวต่างก็ดีใจ